หนุ่มนั่งล้างมือข้างรถถูกรถเทรลเลอร์เลี้ยวทับสะโพกแหลก สะเทือนใจเผยคำพูดสุดท้ายก่อนจากไป
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.67 เพจ ฅนข่าว ต้นปราการ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า #เคสนี้เศร้าคำพูดสุดท้ายก่อนจากไปช่วยผมด้วยผมหายใจไม่ออก!! หนุ่มชะตาขาดนั่งล้างมือข้างรถถูกรถเทรลเลอร์เลี้ยวทับสะโพกแหลก นาย สุนทร อายุ 39 ปี ถึงกับต้องยกมือไหว้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตของเขาโดยเร็ว
หลังจากที่ตัวเขานั้นถูกล้อรถบรรทุกพ่วงเทรลเลอร์ทับเข้าที่สะโพกและขาทั้งสองข้างจนสะโพกแหลกขาทั้งสองข้างถูกทับจนหักทั้งสองข้าง หายใจโรยรินขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ทั้งกู้ชีพจากโรงพยาบาลบางเสาธง และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น
ซึ่งเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากพบว่า บริเวณช่วงสะโพกนั้นถูกทับจนแหลกมีกระดูกสะโพกโผล่ออกมาอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า20 นาที จึงสามารถเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บรายนี้นำส่งโรงพยาบาลบางเสาธงได้ แต่สุดท้ายผู้บาดเจ็บก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 13 พ.ย.67 ภายในลานจอดรถบรรทุกภายในคลังสินค้าแห่งหนึ่งในอำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ


จากการสอบถาม นายวุฒิชัย อายุ 22 ปี คนขับรถเทรลเลอร์คู่กรณี บอกว่า ผู้บาดเจ็บเป็นคนขับรถบรรทุกหกล้ออีกคันที่จอดรอขึ้นงานอยู่ข้างกัน พอถึงคิวตนเองจึงมาขับรถเพื่อจะไปรับสินค้า ซึ่งตอนนั้นหันไปเห็นว่ามีนายสุนทร นั่งล้างมืออยู่ที่หน้ารถข้างขวาฝั่งคนขับ
ตอนนั้นตนเลื่อนรถออกมานั้นยังมองเห็นนายสุนทรนั่งอยู่ ซึ่งช่วงหัวลากมองเห็นแต่ด้วยความมืดจังหวะที่กำลังเคลื่อนรถจะพ้นนั้นตนเองรู้สึกว่าเหมือนล้อหลังของเทรลเลอร์ทับอะไรสักอย่างจึงรีบจอดรถลงมาดูพบว่าทับคนขับรถข้างๆไปแล้ว ตอนนั้นตกใจมากจึงรีบตะโกนให้คนมาช่วยและแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ



ขอบคุณ ฅนข่าว ต้นปราการ
แหล่งที่มา: https://www.siamnews.com/view-122494.html?fbclid=IwY2xjawGiJvBleHRuA2FlbQIxMAABHZZi3JXqls4tfeV3LjAKrDYFEMkf71F2yyKLVY0FvmZjrrAoIQmeF3PhCg_aem_d2R_yvTjY7IzN1BOFDZKIQ
TOP 10 อสังหาฯ ไทย ทำกำไรสูงสุด แสนสิริ โกยมากสุด ขณะ 14 บริษัท ขาดทุน สต๊อกรวมท่วม 6.3 แสนล้าน
- อันดับ 1 : แสนสิริ 3,110 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 2 : เอพี 3,022 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 3 : ศุภาลัย 2,824 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 4 : แลนด์แอนด์เฮ้าส์ 2,806 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 5 : ออริจิ้น 1,915 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 6 : พฤกษา 1,730 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 7 : คิวเฮ้าส์ 1,261 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 8 : เอสซี แอสเสท 1,134 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 9 : เฟรเซอร์ส 714 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 10 : แอสเซทไวส์ 531 ล้านบาท (ลดลง)

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องจับตาดู คือ จำนวนสต๊อกที่อยู่อาศัยคงเหลือ และหน่วยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก โดยนับรวมจากทั้ง 38 บริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 อยู่ที่ 638,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.96% จาก 626,535.06 ล้านบาท จากสิ้นไตรมาสแรกที่ผ่านมา สต๊อกมากสุด นำโดย บมจ.แสนสิริ, ศุภาลัย, เอพี, แลนด์แอนด์เฮ้าส์, เอสซีฯ และพฤกษา เป็นต้น