สุดเศร้า หนูน้อยวัย 1 ขวบ เสียชีวิต หลังจากโดนพ่อลืมทิ้งไว้หลังรถตลอดวัน ฟังสาเหตุ ใจแทบขาด (ข่าว ตปท.)
เด็กชายวัย 1 ขวบเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจเพราะความสะเพร่าของผู้เป็นพ่อที่ลืมหนูน้อยทิ้งไว้หลังรถเป็นเวลานานหลายชั่วโมงท่ามกลางอากาศร้อนจัด
หน่วยตำรวจเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัฐฟลอริดาแถลงข่าวกรณีการเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจของเด็กชายวัย 1 ขวบที่โดนพ่อลืมทิ้งไว้ที่เบาะหลังรถยนต์ซึ่งจอดทิ้งไว้เป็นเวลานานหลายชั่วโมงระหว่างที่มีอากาศร้อนจัดเมื่อวันพุธที่ 6 พ.ย. 2567
เจ้าหน้าที่พบร่างที่ไม่ไหวติงของหนูน้อยที่เบาะหลังของรถซึ่งผู้เป็นพ่อจอดทิ้งไว้ตลอดวัน ฝ่ายตำรวจให้ข้อมูลว่า พ่อของเด็กเพิ่งรู้ตัวว่าลืมลูกทิ้งไว้ในรถเพราะเขาขับรถไปยังศูนย์รับฝากเลี้ยงเด็กเล็กเพื่อรับลูก แต่พนักงานแจ้งว่า เขาไม่ได้มาส่งลูกที่ศูนย์ฯ ในวันนั้น
โยแลนดา เฟอร์นันเดซ โฆษกตำรวจอธิบายว่า พ่อของเด็กเป็นคนดูแลเด็กในช่วงเช้าและพาเด็กไปพบแพทย์ หลังจากนั้น เขาควรพาลูกไปส่งที่ศูนย์รับฝากเลี้ยงเด็กเล็กก่อนที่จะกลับบ้านเพื่อทำงานต่อ
แต่เมื่อถึงเวลา 17.00 น. ของวันเกิดเหตุ พ่อของเด็กชายขับรถออกจากบ้านไปเพื่อรับตัวลูกชายกลับบ้านจากศูนย์รับฝากเด็กเล็กเบย์ฟรอนต์ เฮลท์ ไชล์ด แต่เมื่อเขาไปถึง พนักงานที่ศูนย์ฯ กลับบอกว่า เขาไม่ได้พาลูกมาส่งที่ศูนย์ฯ ในวันนั้น
ถึงช่วงนี้เองที่พ่อของเด็กเริ่มเอะใจ เขารีบกลับไปที่รถของตัวเอง แต่ก็สายเกินไปแล้ว เมื่อทีมกู้ชีพฉุกเฉินมาถึงและพยายามช่วยชีวิตเด็กชายด้วยการผายปอดและปั๊มหัวใจ แต่เด็กก็เสียชีวิตไปแล้ว
ทีมสืบสวนเชื่อว่าเด็กชายโดนทิ้งไว้ในรถตลอดวันที่เบาะหลังรถยนต์ ระหว่างนี้ทีมชันสูตรกำลังดำเนินการเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และยังไม่มีการตั้งข้อหาใด ๆ ต่อผู้เป็นพ่อ
ภายในเวลาแค่ 10 นาที อากาศในรถที่ปิดประตูทั้งหมดอาจร้อนขึ้นได้ถึง 20 องศา ลินด์ซีย์ จูดาห์ หัวหน้ากองกู้ภัยดับเพลิงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อธิบาย นอกจากนี้ ฝ่ายอุตุนิยมวิทยาของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานว่า ในวันเกิดเหตุนั้น อากาศร้อนจัด อุณหภูมิขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 91 องศาฟาเรนไฮต์ (ราว 32.7 องศาเซลเซียส) ซึ่งร้อนกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปในช่วงเวลานี้ของปีประมาณ 10 องศา
ตามข้อมูลขององค์กรไม่แสวงหากำไรนานาชาติ คิดส์ แอนด์ คาร์ เซฟตี รัฐฟลอริดาอยู่ในอันดับที่ 2 รองจากรัฐเทกซัสที่เกิดกรณีการเสียชีวิตของเด็กเพราะอากาศร้อนจัดภายในรถยนต์ที่ปิดหมดระหว่างปี 2533-2566 กรณีการเสียชีวิตที่น่าสลดใจราว 2 ใน 3 ของเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดในฟลอริดาเป็นเพราะเด็กถูกทิ้งไว้ในรถโดยที่ผู้ปกครองไม่รู้ตัว
แหล่งที่มา: https://www.siamnews.com/view-122328.html?fbclid=IwY2xjawGftkNleHRuA2FlbQIxMAABHRkobx38IMRWE-27dLLL4gcRz-Zw32g-iwn3Uc7C4WudIDbMzWnXPPfxrw_aem_xi0iCNTU47LRAfKkFJZQfA
เปิด TOP 10 อสังหาฯ ไทย มีกำไรสูงสุด
- อันดับ 1 : แสนสิริ 3,110 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 2 : เอพี 3,022 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 3 : ศุภาลัย 2,824 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 4 : แลนด์แอนด์เฮ้าส์ 2,806 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 5 : ออริจิ้น 1,915 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 6 : พฤกษา 1,730 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 7 : คิวเฮ้าส์ 1,261 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 8 : เอสซี แอสเสท 1,134 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 9 : เฟรเซอร์ส 714 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 10 : แอสเซทไวส์ 531 ล้านบาท (ลดลง)

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องจับตาดู คือ จำนวนสต๊อกที่อยู่อาศัยคงเหลือ และหน่วยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก โดยนับรวมจากทั้ง 38 บริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 อยู่ที่ 638,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.96% จาก 626,535.06 ล้านบาท จากสิ้นไตรมาสแรกที่ผ่านมา สต๊อกมากสุด นำโดย บมจ.แสนสิริ, ศุภาลัย, เอพี, แลนด์แอนด์เฮ้าส์, เอสซีฯ และพฤกษา เป็นต้น