แฉค่าตัว”ทนายตั้ม”ปรึกษาคดีเดียวรับเละ แค่โทรคุยก็เสีย1,500 แล้ว
ไม่ธรรมดา แฉค่าตัว “ทนายตั้ม”ปรึกษาหนึ่งคดี 20 นาที จ่าย 1,500 บาท หากอยากคุยที่สำนักงานต้องจ่ายเงินอีก 3,000 บาท
จากกรณีเจ้าหน่าที่ตำรวจควบคุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา หลังเมื่อเวลา 09.00 น. นายษิทราขับรถออกจากหมู่บ้านย่านตลิ่งชัน มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี โดย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. ยืนยันว่า ได้มีการขอหมายจับนายษิทรา ในข้อหาฉ้อโกง, ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการค้านการประกันตัวเนื่องจากทนายตั้มมีพฤติกรรมหลบหนี

ทั้นี้ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมี.ค. 66 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เคยออกมาเปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับการทำงานของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม ซึ่งมีใบเอกสารแจ้งเกี่ยวกับค่าดำเนินการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน จำนวน 300,000 บาท ซึ่งสร้างความสะเทือนทั้งวงการสื่อมวลชน และวงการทนายความเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีการแฉอย่างต่อเนื่องจากคนที่เคยทักไปปรึกษาทางเพจของนายษิทราถึงค่าบริการในแต่ละครั้งหากต้องการปรึกษาคดีหรือจ้างว่าความ แบ่งเป็น
- ค่าปรึกษาคดีความทางโทรศัพท์(ทีมงาน) 20 นาที จ่ายเงิน 1,000 บาท
- ค่าปรึกษาคดีความทางโทรศัพท์(ทนายษิทรา) 20 นาที จ่ายเงิน 1,500 บาท
- คุยที่สำนักงาน(ทนายษิทรา) จ่ายเงิน 3,000 บาท





โดยในตอนนั้นทนายตั้มได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงแก้ต่างว่า สำหรับ เงินที่เรียกจากลูกความไป 300,000 บาทนั้น ไม่ถือว่ามาก เพราะต้องต่อสู้กับอะไรหลายอย่าง และไม่มีการเรียกร้องเพิ่มเติม ผมไม่ไปเรียกร้องอะไรเพิ่ม
การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งคือ ค่าเตรียมใช้ในการถูกฟ้องกลับเก็บเฉพาะคดีใหญ่ และมีกำลังจ่าย จำนวน 3 แสนบาท
- ขั้นตอน ติดตามคดี ไม่เรียกเก็บ
- ขั้นการ ดำเนินคดี ไม่เรียกเก็บ
- ขึ้นว่าความ หากชนะคดี ลูกความก็ต้องจ่าย 10-15%
ขอยืนยันว่า รายได้ทั้งหมดนั้นเกิดจากการทำงานของตนเอง ไม่ได้ไปมุบมิบหรือรับเงินจากใคร และชีวิตที่เปลี่ยนไป ก็เพราะมีรายได้จากการทำงาน จึงพาครอบครัวไปพักผ่อนต่างประเทศ และก็มีลูกความที่เคยซื้อของมาฝาก เช่น เสื้อแบรนด์เนมต่างๆ แล้วตลอดชีวิตที่ทำงานเป็นทนายความมา ไม่เคยเรียกรับเงินรับจ้างวานงาน
3 อันดับผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย

แสนสิริ
แสนสิริเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในประเทศไทย ดำเนินกิจการมากว่า 38 ปี จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2537 และมีโครงการชั้นนำกว่า 400 โครงการทั่วประเทศ
โดยจะมุ่งเน้นที่โครงการคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว ซึ่งมีการออกแบบที่ดีเยี่ยมพร้อมเข้าอยู่ ก่อสร้างและมีการตกแต่งอย่างมีคุณภาพ และใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมีช่องทางนำเสนอการขายและให้บริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านการจัดการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท PLUS และบริษัทย่อยอื่นๆ
ตัวอย่างของแบรนด์ในเครือแสนสิริ ได้แก่: D Condo, The Base, Oka Haus, XT, The Line, The Monument, and 98 Wireless (อสังหาริมทรัพย์ระดับท็อปแบรนด์)
พฤกษา
พฤกษาเป็นบริษัทผู้พัฒนาที่มีชื่อเสียง โดยในระยะแรกมุ่งเน้นไปที่โครงการคอนโดราคาไม่แพง ทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้ขยายกิจการสู่ตลาดอสังหาฯ ระดับหรูด้วยแบรนด์ ‘The Reserve’ รวมไปถึงโครงการอสังหาฯ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและทรัพย์สินเชิงพาณิชย์ บริษัทเริ่มดำเนินการในปี พ.ศ. 2536 และพวกเขายังมีโครงการนอกชายฝั่งในอินเดียและมัลดีฟส์อีกด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทไทยไม่กี่แห่งที่ไปลงทุนในต่างประเทศ