“หนุ่ม กรรชัย” ห้ามไม่อยู่ “แพรรี่” – “พระปีนเสา” ซัดกันเดือดปุดกลางรายการ
เดือดสุดๆ กับโหนกระแสวันนี้ เพราะได้เชิญ พระปีนเสา มาดีเบตกับ อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม และ แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร มาร่วมพูดคุยกันในรายการ เนื่องจากเกิดกรณี พระปลัดธีระ หรือ พระปีนเสา รวมพลบุกมาที่ช่อง 3 เพื่อเรียกร้องให้มีรายการโหนกระแสรับผิดชอบ กรณีที่เอาคนตื่นธรรมมาออกรายการ เป็นการทำให้ศาสนาพุทธเสียหาย

และยังมีการให้สัมภาษณ์ถึง แพรรี่ ว่า รายการโหนกระแสติดต่อให้มาออกรายการดีเบตกัน แต่ทำไมแพรรี่ไม่ยอมมา ทำไมถึงไม่กล้า มาเผชิญหน้ากัน ซึ่งทาง แพรรี่ ออกมาตอบกลับในวันนั้นว่า “ดิฉันไม่ได้หลบหน้า แต่ดิฉันมีงานมีการทำ แต่ก่อนจะมาดีเบตกับดิฉัน ไปดีเบตให้ชนะพี่ รปภ.ช่อง 3 ที่เคยโต้คารมวันนั้นให้ได้ก่อนจะดีกว่า”

และเมื่อเข้ารายการมาบอกเลยว่า หนุ่ม กรรชัย พิธีกรในรายการแทบเอาไม่อยู่ เนื่องจากการปะทะคารมของ แพรรี่ ไพรวัลย์ กับ พระปีนเสา สาดฝีปากกับ แพรรี่ หลังจากที่ อ.เบียร์ คนตื่นธรรมได้อธิบายเจตนารมณ์ที่พูดในรายการโหนกระแสในวันนั้นให้ พระปีนเสาฟัง หลังจากที่พระปีนเสาบอกว่าติดใจสงสัยกับประเด็นเรื่องการสร้างศาสนวัตถุ

จากนั้นถึงคราวของ แพรรี่ได้พูดบ้าง ซึ่งเธอบอกว่า พระปีนเสา พูดไม่ตรงประเด็น ที่พยายามเอาเรื่องศีลมาพูด แต่เราไม่ได้คุยกับถึงเรื่องนี้ และที่เธอไม่ได้อยากมานั่งคุยกับเพราะปีนเสา เนื่องจากคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะ พระปีนเสาพยายามแทรกแซงทุกคำพูด จนถึงขั้นว่า หนุ่ม กรรชัย บอกให้หยุดและฟังอีกฝ่ายพูดแล้วยังไม่หยุดพูด

ทั้งนี้ในรายการต่างตกใจนึกว่าจะมีวางมวยกันเสียแล้ว เพราะช่วงตอนหนึ่ง พระปีนเสาได้ถามแพรรี่ว่า เอาเชือกมัดเก้าอี้ไว้หรือยัง เดี๋ยวตกเก้าอี้ ด้าน แพรรี่ รีบสวนกลับทันทีว่า หมายถึงว่าท่านจะทำเธอตกเก้าอี้หรืออย่างไร ก่อนที่ แพรรี่ จะเอื้อมมือไปหยิบกระโถน จนหนุ่ม กรรชัยต้อง ปรามบอกให้ใจเย็นๆ แต่ดูเหมือนว่า พระปีนเสาจะไม่ฟัง พยายามพูดอย่างต่อเนื่อง
TOP 10 อสังหาฯ ไทย ทำกำไรสูงสุด แสนสิริ โกยมากสุด ขณะ 14 บริษัท ขาดทุน สต๊อกรวมท่วม 6.3 แสนล้าน
- อันดับ 1 : แสนสิริ 3,110 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 2 : เอพี 3,022 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 3 : ศุภาลัย 2,824 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 4 : แลนด์แอนด์เฮ้าส์ 2,806 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 5 : ออริจิ้น 1,915 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 6 : พฤกษา 1,730 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 7 : คิวเฮ้าส์ 1,261 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 8 : เอสซี แอสเสท 1,134 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 9 : เฟรเซอร์ส 714 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 10 : แอสเซทไวส์ 531 ล้านบาท (ลดลง)

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องจับตาดู คือ จำนวนสต๊อกที่อยู่อาศัยคงเหลือ และหน่วยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก โดยนับรวมจากทั้ง 38 บริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 อยู่ที่ 638,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.96% จาก 626,535.06 ล้านบาท จากสิ้นไตรมาสแรกที่ผ่านมา สต๊อกมากสุด นำโดย บมจ.แสนสิริ, ศุภาลัย, เอพี, แลนด์แอนด์เฮ้าส์, เอสซีฯ และพฤกษา เป็นต้น