เปิดประวัติ คุณยายบรรเจิดศรี ยมาภัย นักแสดงอาวุโส จากไปอย่างสงบ
เปิดประวัติ นักแสดงอาวุโส ‘บรรเจิดศรี ยมาภัย’ ในวัย 100 ปี จากไปอย่างสงบ เผยผลงานละครขึ้นชื่อ วงการบันเทิงสุดเศร้า แฟนคลับอาลัย
วงการบันเทิงเศร้า สูญเสีย คุณยายบรรเจิดศรี ยมาภัย ในวัย 100 ปี นักแสดงอาวุโส โดยกำหนดการสวดอภิธรรม ณ ศาลา 10 วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร มีพิธีสวดอภิธรรม เวลา 18.30 น. วันที่ 7 พ.ย. – วันที่ 11 พ.ย.และวันที่ 12 พ.ย. มีพิธีฌาปนกิจ เวลา 17.00 น.
สำหรับประวัติ คุณยายบรรเจิดศรี ยมาภัย (2 มิถุนายน พ.ศ. 2467 – 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567) เข้าสู่วงการแสดงเมื่ออายุราว 50 ปี มีผลงานการแสดงละครเรื่องแรก ๆ อย่าง ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ , เคหาสน์สีแดง ปี 32 ละคร คู่กรรม (รับบทยายอังศุมาลิน) ปี 33 ละคร หลงเงาจันทร์

ละคร ดาวพระศุกร์ ละครซิตคอม เรื่อง คู่กิ๊กพริกกะเกลือ ละครทวิภพ ละครบ้านทรายทอง รับบท พระองค์เจ้าหญิงพิศมัยดาราราย/เสด็จป้า บุพเพสันนิวาส รับบท ยายนวล สายโลหิต รับบท ยายนวล และเรื่องสุดท้ายคือ ละคร พรหมลิขิต รับบท ยายนวล

นอกจากนี้ในปี 2537 ยังแสดงภาพยนตร์เรื่อง อำแดงเหมือนกับนายริด และทำให้ได้รับรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 5 ประจำปี 2537 ในสาขาผู้แสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้
คุณยายบรรเจิดศรีสมรสกับบุคคลนอกวงการ มีบุตร-ธิดา 2 คน คือ 1.อาจารย์ศัลยา สุขะนิวัตติ์ นักเขียนบทละครชื่อดัง และ 2.ดอน พฤกษ์พยุง นักแสดงชาวไทย
รวมทั้งยังเป็นคุณย่าของ แดนดาว พฤกษ์พยุง หรือใช้ชื่อในการแสดงในพรหมลิขิตว่า แดนดาว ยมาภัย โดย ยมาภัย เป็นสกุลก่อนสมรสของบรรเจิดศรี และบรรเจิดศรีเป็นญาติกับมนฤดี ยมาภัย อดีตนักแสดงชาวไทย

อ่าน วงการสูญเสีย นักแสดงอาวุโส คุณยาย บรรเจิดศรี ยมาภัย ดาราสาวอาลัยคุณย่าสุดเศร้า
อ่าน ซีนที่ดีที่สุด #พรหมลิขิตตอนจบ การปรากฏตัว คุณยายบรรเจิดศรี วัย98 ย่าแท้ๆของอึ่ง
อ่าน เปิดภาพสุดอบอุ่น คุณยายบรรเจิดศรี นักแสดงอาวุโส ฉลองวันเกิดอายุครบ 100 ปี



3 ยักษ์ใหญ่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่ยืนหยัดเหนือกาลเวลา
อันดับ 1 แสนสิริ ผู้ที่ทำกำไรสูงสุดใน ตลาดอสังหาฯ ไทย

แสนสิริ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2527 อายุรวม 39 ปี โดย กลุ่มจูตระกูล ปัจจุบันมีแบรนด์โครงการบ้านและคอนโดมิเนียมที่เป็นที่รู้จักมากมาย เช่น นาราสิริ,บูก้าน,เศรษฐสิริ,บุราสิริ,ฮาบิเทีย,สราญสิริ,คณาสิริ,KHUN,ชูช์,เวีย,เอ็กซ์ที,เอดจ์,เฮาส์,เดอะ ไลน์,เดอะ เบส,โฟล บายแสนสิริ
ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 แสนสิริ สามารถทำกำไรสุทธิได้ 3,202 ล้านบาท ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนถึง 17.80 % มี มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 25,211 ล้านบาท และมี สินทรัพย์รวม 139,816 ล้านบาท
ผลประกอบการย้อนหลังของ แสนสิริ
- ปี 2563 รายได้ 34,891 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,673 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 29,747 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,017 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 34,973 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,279 ล้านบาท
- ปี 2566 รายได้ 17,477 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,202 ล้านบาท (งบ 6 เดือน2566)
ใครจะคิดว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งของไทยในปัจจุบันอย่าง แสนสิริ เริ่มต้นจากบริษัทเล็ก ๆ ชื่อแสนสำราญ จำกัด เมื่อปี 2531 กับโครงการบ้านไข่มุก คอนโดมิเนียมริมหาดระดับตำนานของหัวหิน ที่ราคาต่อยูนิตเพียง 7 ล้านบาทเท่านั้น แต่กลับเป็นที่ต้องการของเศรษฐีในยุคนั้น

จากโครงการบ้านไข่มุกคือโครงการแฟล็กชิพแห่งแรกของแสนสิริที่เปิดตัวในปี 2531 ปัจจุบันแสนสิริมีมูลค่าโครงการรวมเพิ่มขึ้นกว่า 1,000% โดยราคาขายต่อยูนิตพุ่งสูงขึ้นจาก 7 ล้านบาท เป็น 80 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของแสนสิริที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอสังหาริมทรัพย์ไทยได้ในเวลา 39 ปี
อันดับ 2 เอพี ไทยแลนด์ ผู้นำตลาดอสังหาฯ สวนกระแส

ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เอพี สามารถทำกำไรสุทธิได้ 3,022 ล้านบาท ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนถึง 16.05% มี มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 33,975 ล้านบาท และมี สินทรัพย์รวม 79,176 ล้านบาท
ผลประกอบการของ เอพี ไทยแลนด์
- ปี 2563 รายได้ 29,958 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,226 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 31,980 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,543 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 38,702 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,877 ล้านบาท
- ปี 2566 รายได้ 18,831 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,022 ล้านบาท (งบ 6 เดือน2566)
เอพี ไทยแลนด์ ผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์อีกเจ้าในไทย เวลานี้สวนกระแสตลาดที่ชะลอตัวในปี 2566 ด้วยแผนธุรกิจที่ดุดัน เปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุดในอุตสาหกรรม จำนวน 58 โครงการ มูลค่ารวม 77,000 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด
เอพี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2534 อายุรวม 32 ปี โดย คุณ อนุพงษ์ อัศวโภคิน ปัจจุบันมีแบรนด์โครงการบ้านและคอนโดมิเนียมที่เป็นที่รู้จักมากมาย เช่น บ้านกลางเมือง, บ้านกลางกรุง, GRANDE PLENO, THE CITY, CENTRO, ASPIRE, HYTHM และ LIFE ความสำเร็จของเอพี สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของผู้บริหารที่เชื่อมั่นในศักยภาพของธุรกิจและไม่ยอมแพ้ต่อความท้าทาย โดยนายอนุพงษ์ อัศวโภคิน เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าไม่แน่ ก็คงไม่กล้า”

สำหรับในครึ่งปีหลังบริษัทฯ เตรียมเปิดตัวอีก 40 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 55,940 ล้านบาท โดยเป็นทาวน์โฮม 19 โครงการ มูลค่า 19,550 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 14 โครงการ มูลค่า 24,750 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 8,300 ล้านบาท และต่างจังหวัด 4 โครงการ มูลค่า 3,340 ล้านบาท
อันดับ 3 แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้ครองตลาด บ้านหรู ในไทย

ในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ไม่มีใครไม่รู้จัก “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” ผู้นำตลาดบ้านหรูระดับบนมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ด้วยภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและความเชื่อมั่นในคุณภาพ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จึงสามารถครองใจผู้บริโภคมาได้อย่างเหนียวแน่น แม้จะมีคู่แข่งหน้าใหม่เข้ามาท้าทายอยู่เสมอ
ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ สามารถทำกำไรสุทธิได้ 2,803 ล้านบาท ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนถึง 7.95 % มี มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 90,220 ล้านบาท และมี สินทรัพย์รวม 128,422 ล้านบาท
ผลประกอบการของ ศุภาลัย เรียลเอสเตท
- ปี 2563 รายได้ 30,965 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7,144 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 33,031 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6,936 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 36,482 ล้านบาท กำไรสุทธิ 8,312 ล้านบาท
- ปี 2566 รายได้ 14,036 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,803 ล้านบาท (งบ 6 เดือน2566)
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ก่อตั้งเมื่อ ปี 2516 อายุรวม 50 ปี โดย คุณ อนันต์ อัศวโภคิน เป็นที่รู้จักกันดีในนามของ “บ้านหรู สวยทุกหลัง ได้ของ เหมือนที่ตาเห็น” จากการนำเสนอโครงการบ้านหรูที่มีคุณภาพสูง ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุด และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าระดับบนอย่างแท้จริง

สำหรับโครงการที่ประสบความสำเร็จของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้แก่ โครงการบ้านนันทวัน โครงการบ้านมัณฑนา และโครงการบ้านลดาวัลย์ ความสำเร็จของ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยสำคัญหลายประการที่ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประสบความสำเร็จ ได้แก่ คุณภาพของโครงการ ที่ตั้งโครงการ และภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด