ใจหาย “พิธีกรดัง” โบกมือลาช่องดัง 19 ปีที่อยู่มา ขอฝากเทปสุดท้าย
แฟนคลับใจหาย พิธีกรดัง “ดาว อภิสรา” โบกมือลาช่องดังต้นสังกัดที่อยู่มานานกว่า 19 ปี ขอฝากเทปสุดท้ายธันวาคมนี้
ทำเอาแฟนคลับใจหายเมื่อพิธีกรดัง “ดาว อภิสรา” อัดคลิปอำลาช่อง 3 หลังอยู่มา 19 ปี ล่าสุดสิ้นสุดการเป็นพนักงานแล้ว เทปสุดท้ายคือสิ้นเดือนธันวาคม เผยเป็นความสมัครใจอยากเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ๆได้ขึ้นมาแทน ตอนนี้ถือว่าเป็นฟรีแลนซ์ยังรับงาน รับจ็อบอยู่
ใจหาย พิธีกรดัง โบกมือลาช่องดัง 19 ปีที่อยู่มา ขอฝากเทปสุดท้าย
จหาย พิธีกรดัง โบกมือลาช่องดัง 19 ปีที่อยู่มา ขอฝากเทปสุดท้าย
โดยในคลิป ดาว อภิสรา ได้พูดถึงการสิ้นสุดการเป็นพนักงานเอาไว้ว่า
“สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ที่น่ารักทุกคนนะคะและคุณผู้ชมที่น่ารักทุกคน หลายคนก็ได้โทรเข้ามานะคะ ทั้งโทรเข้ามา ส่งข้อความเข้ามา หรือทักมาถามตามช่องทางต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องของช่อง 3 ใช่ไหมคะ หลายๆ คนคงจะได้ยินสถานการณ์ของช่อง 3 ในตอนนี้กันนะคะ”
“ดาวเองเป็นพนักงานช่อง 3 ค่ะ อยู่มาตั้งแต่ปี 48 ซึ่งนับมาถึงตอนนี้ก็ปี 67 ใช่ไหมคะ ก็อยู่กับช่อง 3 มาประมาณ 19 ปีแล้วค่ะ เป็นบ้านที่ทุกคนน่ารัก ทั้งเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน พี่ๆ น้องๆ ทางช่อง 3 ทุกคนตั้งแต่ รปภ. แม่บ้าน ทุกคนน่ารักกันหมดเลยค่ะ”
ใจหาย พิธีกรดัง โบกมือลาช่องดัง 19 ปีที่อยู่มา ขอฝากเทปสุดท้าย
“ในวันนี้อยากจะมาบอกกับทุกๆ คนว่า สิ้นสุดการเป็นพนักงานช่อง 3 แล้วนะคะสำหรับดาวตอนนี้ ถือว่าเป็นฟรีแลนซ์นะคะ แต่ว่ายังไม่สิ้นสุดการทำงานทั่วๆ ไปนะคะ ก็ยังรับงาน รับจ็อบอยู่นะ อีเวนต์ต่างๆ พิธีกรต่างๆ หรือแม้แต่งานการสอน การบรรยายนะคะ หรืองานช่องทางอื่นๆ สามารถติดต่อมาได้เหมือนเดิมค่ะ”
ใจหาย พิธีกรดัง โบกมือลาช่องดัง 19 ปีที่อยู่มา ขอฝากเทปสุดท้าย
“แต่ว่าหลายๆ คนจะเจอดาวได้หน้าจอช่อง 3 จนถึงเทปสุดท้ายก็คือสิ้นเดือนธันวาคมนะคะ เป็นเทปสุดท้ายของ ผู้หญิงยกกำลังแจ๋ว ของดาวเองนะคะ”
“ยังไงก็ฝากติดตามช่อง 3 ต่อไปนะคะ สนับสนุนช่อง 3 ต่อไปเรื่อยๆ ก็ยังคงมีความตั้งใจสำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ยังอยู่นะคะ ที่จะผลิตคอนเทนต์ดีๆ ให้กับทุกๆ คนนะคะ”
ใจหาย พิธีกรดัง โบกมือลาช่องดัง 19 ปีที่อยู่มา ขอฝากเทปสุดท้าย
“ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ เพราะมันเป็นความสมัครใจของดาวด้วยนะคะ ที่ถือว่าโอเคเราอยู่ตรงนี้ก็ถือว่าอยู่มานานมากพอสมควรแล้ว ก็เปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ๆ ให้น้องๆ ได้ขึ้นมาด้วยนะคะ”
“ส่วนใครสนใจอยากจะร่วมงานกับดาว ก็ติดต่อเข้ามาได้เลยนะ ทุกที่ ตอนนี้ว่างอยู่นะคะ เปิดโอกาสให้จีบได้นะคะ”
และยังบอกอีกว่าไม่ต้องให้กำลังใจเพราะเป็นความสมัครใจจริงๆ พร้อมฝากติดตามผลงานของทางช่องต่อไป
รถยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดี? 10 อันดับรถยอดฮิตปี 2024

ในปี 2024 หลายๆคนได้ฤกษ์ออกรถคันใหม่ และหลายคนอาจจะกำลังหาข้อมูลเพื่อเลือกรถยนต์ที่ตรงใจเรามากที่สุด ซึ่งต้องบอกเลยว่า รถยนต์ใหม่ในปัจจุบัน มีตัวเลือกหลากหลายมาก
วันนี้ Priceza Money เลยถือโอกาสมาแนะนำ รถยนต์ยอดฮิตที่เข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเรามากที่สุด จากสถิติรุ่นรถที่เก็บข้อมูลในทุกๆปีของเรา เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพว่าคนไทยส่วนใหญ่ ใช้รถยนต์ยี่ห้อไหน รถเก๋งยี่ห้อไหน? หรือ รถกระบะอะไร? กับ 10 อันดับรถยอดฮิตในเว็บ Priceza Money มาดูกันเลย!
อันดับ 1 ISUZU D-MAX
รถยนต์ที่มีสถิติเข้ามาเปรียบเทียบประกันกับ Priceza Money เป็นอันดับ 1 และคาดว่าเป็นรุ่นรถที่คนไทยเลือกใช้กันเยอะที่สุด ก็คือ ISUZU D-MAX นี่แหละครับ

แสดงให้เห็นว่าคนไทยทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เลือกใช้รถกระบะในชีวิตประจำวันกันไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป หรือ จะเป็นการใช้งานเพื่อธุรกิจก็ตาม
- ISUZU D-MAX ปิคอัพ 2 ประตู ราคาเริ่มต้นที่ 650,000 บาท
- ISUZU D-MAX ปิคอัพ 4 ประตู ราคาเริ่มต้นที่ 731,000 บาท
อันดับ 2 TOYOTA YARIS
หลายๆคนถามหารถเก๋งรุ่นไหนดี? ถ้านับเฉพาะรถเก๋งอย่างเดียว TOYOTA Yaris ถือเป็นรุ่นรถยอดฮิตอันดับ 1 ที่คนเลือกเข้ามาเปรียบเทียบผ่าน Priceza Money มากที่สุดครับ

ด้วยราคาที่ย่อมเยาว์ ประกอบกับเป็นรถของแบรนด์อันดับ 1 อย่าง TOYOTA ขายต่อมือสองราคาไม่ตกมาก อะไหล่ก็หาไม่ยาก ทำให้ TOYOTA Yaris เป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในใจใครหลายๆคนครับ
- TOYOTA YARIS ATIV (Sedan) ราคาเริ่มต้นที่ 549,000 บาท
- TOYOTA YARIS (Hatchback) ราคาเริ่มต้นที่ 559,000 บาท
อันดับ 3 HONDA CITY
รถเก๋งอีกรุ่นที่ฮิตใกล้เคียงกับ TOYOTA Yaris แบบตามๆกันมาเลยก็คือ HONDA City นั่นเองครับ โดยมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่เข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับ Priceza Money ครับ ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นเก่าหน่อยอย่างเครื่อง 1.5 CC และ รุ่นใหม่ที่เป็นเครื่อง Turbo 1.0 CC ก็ตามครับ

รถเก๋งอีกรุ่นที่ราคาย่อมเยาว์เหมาะกับคนที่พึ่งกำลังจะมีรถคันแรก ในวัยทำงาน แถมเครื่องยนต์ตัวใหม่ที่มีขนาดแค่ 1.0 CC ก็ส่งผลให้ภาษีรถยนต์ต่อปีไม่แพงด้วยนะ !
- HONDA CITY (Sedan) ราคาเริ่มต้นที่ 629,000 บาท
- HONDA CITY 2023 (Hatchback) ราคาเริ่มต้นที่ 599,000 บาท
อันดับ 4 MAZDA 2
รถเก๋ง eco car อีกรุ่นจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นที่เข้ามาขายในประเทศไทยก็คือเจ้า MAZDA 2 นี่เอง ที่มีคนเข้ามาเลือกเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเราเพียบ !

ห้ามพลาดที่จะไปลองขับรุ่นนี้เลยสำหรับสายสปอร์ต เพราะ MAZDA 2 ถือเป็นรถเก๋งที่มีความเท่แตกต่างจาก Yaris และ City ไปอีกแบบ
- MAZDA 2 (Sedan) ราคาเริ่มต้นที่ 599,000 บาท
- MAZDA 2 (Hatchback) ราคาเริ่มต้นที่ 599,000 บาท
อันดับ 1 รถยนต์ไฟฟ้า BYD DOLPHIN
เปิดตัวมาเมื่อกลางปี 2023 ที่ผ่านมาแต่มียอดจดทะเบียนมาถึงปี 2024 กว่า 10,000 คันเรียบร้อยแล้วครับ สำหรับรถเก๋งไฟฟ้าอย่าง BYD DOLPHIN

ด้วยตัวแบรนด์ใหญ่จากประเทศจีนอย่าง BYD จับมือร่วมงานกับดีลเลอร์อย่าง RÊVER Thailand ทำให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทีเดียวเลยครับสำหรับเจ้า DOLPHIN คันนี้
*นอกจากรุ่น BYD DOLPHIN ที่ขายดีมากๆแล้ว ยังมีรุ่น BYD ATTO 3 (ราคาเริ่มต้น 1,099,900 บาท) และ BYD SEAL (ราคาเริ่มต้น 1,325,000 บาท) ที่เปิดตัวออกมาแล้วขายดีมากๆเช่นเดียวกันครับ
- BYD DOLPHIN (Standard) ราคาเริ่มต้นที่ 699,999 บาท
- BYD DOLPHIN (Extended) ราคาเริ่มต้นที่ 859,999 บาท
อันดับ 2 รถยนต์ไฟฟ้า NETA V
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ถือว่าราคาย่อมเยาว์ที่สุดในเก๋งไฟฟ้าปีนี้ นั่นก็คือ NETA V นั่นเองครับ

อีกค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนอย่าง NETA ที่เปิดตัวเก๋งไฟฟ้าราคาดีมากๆสำหรับคนงบไม่เยอะ ราคาจับต้องได้ น่าใช้มากๆครับ
- NETA V (มีรุ่นเดียว) ราคาเริ่มต้นที่ 549,999 บาท
อันดับ 3 รถยนต์ไฟฟ้า ORA GOOD CAT
รถเก๋งไฟฟ้าที่เปิดตัวแรกๆก่อนค่ายอื่นๆ ทำให้ขายได้ค่อนข้างเยอะพอสมควรในปี 2022 ก่อนที่ค่ายอื่นๆจะเข้ามาทำตลาดตาม GWM ในภายหลัง ในปี 2023-2024 ก็ยังขายได้เรื่อยๆแต่อาจจะไม่ได้ดีเท่าตอนเปิดตัวแรกๆเพราะว่ามีคู่แข่งเยอะขึ้นนั่นเองครับ

รถเก๋งไฟฟ้าสุดน่ารักอย่าง ORA GOOD CAT ด้วยราคาหลักแสน และ ดีไซน์ที่ค่อนข้างน่ารัก จึงทำให้หลายๆคนเลือกใช้ครับ
- ORA GOOD CAT (PRO) ราคาเริ่มต้นที่ 799,000 บาท
- ORA GOOD CAT (ULTRA) ราคาเริ่มต้นที่ 899,000 บาท
อันดับ 4 รถยนต์ไฟฟ้า MG4
รถเก๋งไฟฟ้า 100% ดีไซน์เท่ๆ จากค่าย MG เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดของ MG ในปัจจุบันครับ ในปี 2023-2024 มียอดขายกว่า 5,000 คันเลยทีเดียว

โดยราคาค่าตัวยังไม่ถึงล้าน ทำให้เป็นรถที่อยู่ในกลุ่มที่ซื้อง่าย ราคาไม่แรง และสมรรถนะค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ
- MG4 (รุ่น D) ราคาเริ่มต้นที่ 869,000 บาท
- MG4 (รุ่น X) ราคาเริ่มต้นที่ 969,000 บาท

และสุดท้ายเผื่อใครยังไม่มั่นใจกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ EV ทาง Priceza Money ได้คัดเลือก รถยนต์ที่ใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้า หรือ HYBRID มาให้ได้เลือกดูกันด้วยครับ
อันดับ 1 รถยนต์ไฮบริด TOYOTA YARIS CROSS
รถอีกรุ่นที่มีความประหยัด มากกว่ารถน้ำมันทั่วไป และที่สำคัญเป็นรถของ TOYOTA แบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสำหรับราคาขายต่อมือสองอยู่แล้วด้วย

นอกจากนี้ยังสามารถมั่นใจได้ว่าการบริการและศูนย์ซ่อมค่อนข้างครอบคลุมภายใต้เครือ TOYOTA แถมราคายังไม่ถึงล้านด้วยครับ
- TOYOTA YARIS CROSS ราคาเริ่มต้นที่ 789,000 บาท
อันดับ 2 รถยนต์ไฮบริด HONDA CITY E:HEV
รถ HYBRID อีกรุ่นจากค่ายญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่อย่าง HONDA นำเอารถยนต์ยอดฮิตอย่าง HONDA CITY มาอัพให้กลายเป็นระบบ HYBRID ใช้ชื่อว่า E:HEV

ราคาเริ่มต้นยังไม่ถึงล้าน แต่ก็เพิ่มราคาขึ้นมาจากระบบน้ำมันธรรมดาในหลัก 1-2 แสนบาทอยู่ครับ ต้องชั่งน้ำหนักกันว่าประหยัดน้ำมันมากพอที่จะจ่ายเพิ่มมั้ย
- HONDA CITY E:HEV (Hatchback) ราคาเริ่มต้นที่ 729,000 บาท
- HONDA CITY E:HEV (Sedan) ราคาเริ่มต้นที่ 769,000 บาท
สรุป
ก็ครบถ้วนไปแล้วทั้ง 10 อันดับ (รถยนต์น้ำมัน 4 + รถยนต์ไฟฟ้า 4 + รถยนต์ไฮบริด 2) ใครถูกใจรุ่นไหนกันบ้างครับ จริงๆแล้วยังมีอีกหลากหลายรุ่นที่น่าสนใจเช่นกัน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องรถเก๋ง บางทีอาจจะอยู่ที่ความชอบและความพึงพอใจของแต่ละคนว่าอยากเลือกใช้รถยนต์รุ่นไหน
แต่ถ้าเป็นเรื่องประกันภัยแล้ว ใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ดีๆ ลองกดเข้ามาหาข้อมูลกันได้ที่ Priceza Money เข้ามาเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองจากทุกบริษัทประกันรถยนต์ชั้นนำในเมืองไทย เลือกง่าย เชื่อถือได้ เพื่อทุกการเดินทางที่อุ่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นครับ