ไก่ ภาษิต-ตูน ปรินดา เผยความรู้สึก หลังช่อง 3 ดีเดย์ส่งเมล์เลิกจ้าง ลั่นถ้ามีชื่อพร้อมเดินออกทันที
จากกรณีที่ก่อนหน้านั้น ได้มีข่าวเกี่ยวกับการปลดพนังงานออกจากบริษัทดัง ช่อง3 โดย รายงานข่าวระบุว่า ช่อง 3 หรือที่รู้จักในนามช่องน้อยสี เตรียมปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยมีเป้าหมายลดค่าใช้จ่ายลง 30% ผ่านการเลิกจ้างพนักงานในทุกระดับ ตั้งแต่หัวหน้าข่าวจนถึงพนักงานทั่วไป ซึ่งหัวหน้างานต้องส่งรายชื่อผู้ที่ถูกเลิกจ้างภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ และการปรับโครงสร้างดังกล่าวจะมีผลในปี 2568

ล่าสุดทาง รายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พิธีกร ตูน ปรินดา คุ้มธรรมพินิจ และ ไก่ ภาษิต อภิญญาวาท ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวแบบสดๆ ระหว่างรายการ โดยเปิดเผยว่า ก่อนเริ่มรายการเวลา 16.30 น. มีข้อความแจ้งผ่านไลน์ถึงพนักงาน ระบุว่า “วันนี้ หลัง 17.00 น. ทาง HR จะส่งอีเมลถึงผู้ที่จำเป็นต้องเข้าโครงการปรับโครงสร้าง
ไก่ภาษิตกล่าวว่า “เพิ่งคุยกับตูนก่อนเริ่มรายการว่า ควรจะมีอีเมลเข้ามาหรือเปล่า พอได้รับข้อความก็ไม่เป็นอันทำอะไรเลย” พร้อมเผยว่า ตนเคยเจอสถานการณ์ลักษณะนี้มาก่อน 3 ครั้ง ทั้งจากการทำงานที่เก่า และตอนที่ช่อง 3 ยุติการออกอากาศช่อง SD
ตูน ปรินดากล่าวเสริมว่า “ปกติก่อนเข้ารายการจะเช็กภาพและเสียง แต่วันนี้กลับต้องเช็กไลน์ก่อน ก็รู้สึกตกใจและไม่รู้ว่าควรเช็กอีเมลหรือไม่ ถ้ามีชื่อหนูจริงๆ อาจต้องเดินออกจากรายการทันที”
ภาษิตยังได้กล่าวถึงพี่น้องในวงการสื่อว่า “บรรยากาศแบบนี้ไม่ดีเลย วันนี้อาจไม่ได้ทำงานร่วมกัน แต่วันหน้าอาจวนมาเจอกันใหม่”
โดย พิธีกรทั้งคู่ได้ส่งกำลังใจถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างครั้งนี้ พร้อมเชิญชวนผู้ชมให้สนับสนุนรายการและสถานีต่อไปเพื่อช่วยให้องค์กรเดินหน้าต่อได้.

แหล่งที่มา: https://www.news.in.th/view-20498.html?fbclid=IwY2xjawGyDG1leHRuA2FlbQIxMAABHfERjydeqZzyr_Kanj5eDr_MfwCvW8WKve40FFynCF-RgUQn-VPo1l11zA_aem_H7rwiClLVTHv7acLgWiAfg
10 อันดับ รถ Toyota รุ่นไหนดี ปี 2024 ระบบธรรมดา และ Hybrid
หากพูดถึงเจ้าตลาดแห่งรถยนต์แล้ว หลาย ๆ คนคงนึกถึงแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นยอดนิยมอย่าง “Toyota” เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่คนไทยไว้วางใจว่าเครื่องยนต์และเกียร์คุณภาพดี มีความทนทานสูง สามารถใช้งานอย่างยาวนานได้ถึงหลักแสนกิโลเมตร โดยไม่ตรงเข้าศูนย์บริการบ่อย ๆ ทั้งยังมีศูนย์บริการหลายแห่งและบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ง่าย และไม่จำเป็นต้องรอคิวนาน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีรถยนต์ Toyota ที่จำหน่ายอยู่ในตลาด 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และรถยนต์อเนกประสงค์ ทั้งยังมีระบบการทำงานของเครื่องยนต์ถึง 2 ระบบ ได้แก่ ระบบ Hybrid และระบบธรรมดา ทีมงานมายเบสท์จึงได้รวบรวมข้อมูลมาทั้งวิธีการเลือกแบบเจาะลึก และ 10 อันดับ รถยนต์ T
วิธีการเลือกรถยนต์ Toyota
เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกรถยนต์จาก Toyota ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างตรงจุด อันดับแรก เรามาดูรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์ของ Toyota ระบบการทำงานของเครื่องยนต์ และบริการหลังการขายกันก่อนเลยนะคะ
1
เลือกรถยนต์ Toyota ให้เหมาะกับการใช้งาน
ในปัจจุบัน มีรถยนต์จาก Toyota วางจำหน่ายอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และรถยนต์อเนกประสงค์ค่ะ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีรถยนต์รุ่นใดอยู่บ้าง และมีจุดเด่นในเรื่องอะไรบ้างนั้น เราไปดูรายละเอียดพร้อมกันเลยค่ะ
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล
อ้างอิง:toyota.co.th
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลของ Toyota จัดอยู่ในประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รย.) ซึ่งเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีจุดเด่น คือ มีขนาดกำลังดี ไม่เล็กเกินไปสำหรับครอบครัวขนาดกลางที่มีสมาชิกไม่เกิน 5 คน และไม่ใหญ่เกินไปจนขาดความคล่องตัวสำหรับการขับขี่ในตัวเมือง รวมทั้งสามารถเลือกขนาดเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ โดยมีตั้งแต่ 92 แรงม้า ในรุ่น Yaris ATIV และ Yaris จนถึง 387 แรงม้าในรถสปอร์ต รุ่น GR Supra
โดยรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของ Toyota มีหลากหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่ Sedan 4 ประตู, Hatchback 5 ประตู, CUV, SUV และรถสปอร์ต ซึ่งประกอบด้วยรถยนต์ 8 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ รุ่น Yaris ATIV, Yaris, Vios, Altis, C-HR, Corolla Cross, CAMRY และ GR Supra คุณจึงสามารถเลือกประเภท ขนาดตัวถัง และขนาดเครื่องยนต์ที่ตรงกับความชื่นชอบและการใช้งานได้ค่ะ
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
อ้างอิง:toyota.co.th
รถยนต์เพื่อการพาณิชย์คือ รถยนต์สำหรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ เช่น การขนส่งสินค้า หรือรับ-ส่งผู้โดยสาร ซึ่งรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของ Toyota ประกอบด้วยรถยนต์ทั้งหมด 6 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Hilux Revo Standard Cab, Hilux Revo Prerunner & 4×4, Hilux Revo Z Edition, Hilux Revo Rocco, Commuter และ Hiace
โดยสำหรับรถยนต์รุ่น Hilux เป็นรถกระบะ สามารถจุผู้โดยสารได้ 2 – 5 คน ส่วน Commuter และ Hiace เป็นรถตู้ สามารถจุผู้โดยสารได้มากสุด 17 คนค่ะ นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มักถูกใช้ในการวิ่งระยะทางไกล จึงมีความทนทานและมีกำลังในการวิ่งสูง ซึ่งในรุ่น Hilux จะมีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 150 แรงม้า รุ่น Commuter มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 163 แรงม้า และ Hiace มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 177 แรงม้าค่ะ
รถยนต์อเนกประสงค์
อ้างอิง:toyota.co.th
รถยนต์อเนกประสงค์มีขนาดตัวถังค่อนข้างใหญ่และมีจำนวนที่นั่งหลายที่นั่ง จึงสามารถจุผู้โดยสารได้เป็นจำนวนมาก ทั้งยังสามารถพับเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้ จึงเป็นรถยนต์ที่คุณสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างอเนกประสงค์ทั้งการรับ-ส่งผู้โดยสาร และการบรรทุกสัมภาระตามชื่อของรถเลยค่ะ นอกจากนี้ รถยนต์ประเภทนี้ ยังมีช่วงล่างสูง เกาะถนนได้ดี จึงให้ความรู้สึกนุ่มนวลขณะขับขี่ และยังช่วยให้คุณเดินทางไปบนเส้นทางขรุขระอย่างถนน Off-Road ได้อีกด้วยค่ะ
โดยรถยนต์อเนกประสงค์จาก Toyota มีทั้งหมด 7 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Avanza, Sienta, Innova Crysta, Fortuner, Majesty, Alphard และ Coaster โดยรุ่น Avanza, Sienta, Innova Crysta และ Fortuner สามารถจุผู้โดยสารได้จำนวน 7 ที่นั่ง รุ่น Alphard สามารถจุผู้โดยสารได้จำนวน 8 ที่นั่ง รุ่น Majesty สามารถจุผู้โดยสารได้จำนวน 11 ที่นั่ง และรุ่น Coaster ซึ่งเป็นรถมินิบัส สามารถจุผู้โดยสารได้มากถึง 20 ที่นั่งค่ะ
2
เลือกรถยนต์ Toyota จากระบบการทำงานของเครื่องยนต์
อ้างอิง:toyota.co.th
อันดับต่อไป เรามาดูระบบการทำงานของเครื่องยนต์รถยนต์ Toyota กันนะคะ โดยผู้เขียนขอแบ่งระบบการทำงานของเครื่องยนต์เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ระบบธรรมดา และระบบ Hybrid ค่ะ สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์ระบบธรรมดาของ Toyota มี 3 แบบด้วยกัน คือ 3 สูบ, 4 สูบ และ 6 สูบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ มีเพียงรุ่น Toyota GR Yaris ปี 2020 และรถสปอร์ตเท่านั้น ที่ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ และ 6 สูบ โดยจุดเด่นของเครื่องยนต์ 4 สูบ คือ เครื่องยนต์มีความเสถียรสูง เดินเครื่องได้เรียบ และมีกำลังเครื่องดีค่ะ
ส่วนสำหรับระบบ Hybrid ของ Toyota ทำงานโดยการผสานพลังของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เบนซินเข้าด้วยกัน โดยมีแบตเตอรี่ช่วยส่งพลังงานเสริมให้กับมอเตอร์ไฟฟ้า จึงช่วยให้เครื่องยนต์มีกำลังสูง อัตราเร่งดี ไม่แพ้เครื่องยนต์ระบบธรรมดาเลยค่ะ นอกจากนี้ ยังมีจุดเรื่องการประหยัดน้ำมัน ซึ่งในรุ่น CAMRY สามารถช่วยคุณประหยัดน้ำมันได้มากถึง 25 กิโลเมตรต่อลิตร ทั้งยังหมดปัญหาเรื่องเสียงดังรบกวนจากเครื่องยนต์ เพราะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอีกด้วยค่ะ
3
ตรวจสอบบริการหลังการขายของ Toyota
นอกจากวัตถุประสงค์การใช้งานและสมรรถนะของเครื่องยนต์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราขอแนะนำให้ตรวจสอบด้วยคือบริการหลังการขายของ Toyota ซึ่งบริการหลังการขายหลัก ๆ ของ Toyota มีดังนี้ค่ะ
- บริการเช็กระยะทันใจพลัส (EM Plus) เช็กระบบเครื่องยนต์, ระบบส่งกำลัง, ระบบเบรก, ระบบรองรับ, ระบบบังคับเลี้ยว, ระบบไฟฟ้าแสงสว่างรถยนต์ และระบบปรับอากาศ ตามระยะมาตรฐาน คือ ทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร และ 40,000 กิโลเมตร
- บริการเปลี่ยนอะไหล่ตามระยะทาง บริการเปลี่ยนอะไหล่ตามระยะทางของรถยนต์แต่ละรุ่น มีให้เลือกตั้งแต่ 10,000 – 100,000 กิโลเมตร
- โตโยต้าสมาร์ทพลัส เป็นโปรแกรมสำหรับใช้เป็นส่วนลดในการเข้ารับบริการงานซ่อมทั่วไป งานตัวถัง และงานสีของศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ โดยมี 4 แพ็กเกจให้เลือกด้วยกัน ได้แก่ แพ็กเกจอุ่นใจ, สบายใจ, เบาใจ และสุขใจ
- โตโยต้าสมาร์ทแพลน เป็นแพ็คเกจเช็กระยะ เพื่อช่วยให้คุณวางแผนการเช็กระยะในอนาคต รวมทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงสุดถึง 25% โดยมี 3 แพ็กเกจให้เลือกด้วยกัน ได้แก่ Plan 15, Plan 20 และ Plan 25
- บริการซ่อมตัวถังและสี บริการดูแลเรื่องตัวถังและสี รับประกันงานซ่อมสีและชิ้นงานอะไหล่ 12 เดือนหลังการซ่อม
การตรวจสอบบริการหลังการขายก่อนซื้อ นอกจากจะช่วยให้คุณทราบว่าต้องนำรถไปเข้าศูนย์บริการเมื่อไหร่แล้ว ยังช่วยประหยัดเวลา เพราะคุณสามารถเลือกแพ็กเกจเสริมล่วงหน้าจากที่บ้าน และซื้อแพ็กเกจพร้อมกับรถได้ทันทีเลยค่ะ