คิวต่อไปรอเลย ฟิล์ม รัฐภูมิ ลุ้นว่าจะเป็นหมายเรียก หรือหมายจับ
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า วันนี้ (25 พ.ย. 2567) ตำรวจสอบสวนกลางจะออกหมายเรียกหรือออกหมายจับนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นในวันนี้ได้มีการส่งพนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำบอสดิไอคอน ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อจะให้ยืนยันข้อเท็จจริง และนำข้อมูลมาประกอบพยานหลักฐาน ก่อนจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะเข้าข่ายในความผิดใด
โดยเบื้องต้น หากพฤติการณ์เข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกง ก็จะเป็นการออกหมายเรียก แต่หากพบว่าเข้าข่ายพฤติการณ์เป็นการกรรโชกทรัพย์ ก็จะสามารถออกหมายจับได้ทันที เพราะมีโทษตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ยืนยันว่า จะใช้ระยะเวลาไม่นานในการพิจารณาดำเนินการ
ที่มา thaich8
แหล่งที่มา: https://www.siamnews.com/view-123302.html?fbclid=IwY2xjawGw7o5leHRuA2FlbQIxMAABHYJySRGeVzb9crEex5hnfSrQ5hJRCeJnand8_HTxmTyZN7gzKFgUn89zuw_aem_UMcnSZejrw0Rx5N7ng9Xrw
ตลาด “รถยนต์ไทย” ใครครอง? เปิด TOP 10 แบรนด์รถยอดนิยม ปี 2567
ตลาดรถยนต์ในประเทศของไทยได้ผ่านจุดสูงสุดและเริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวนับตั้งแต่ปี 2561 ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศอยู่ในทิศทางขาลงอย่างต่อเนื่อง
ท่ามกลางแรงต้านรถ EV แบรนด์จีนใหม่ ๆ ที่กำลังทะลักเข้ามาในตลาดและเตรียมปักหมุดตั้งโรงงานผลิตในไทย หากแต่ปัญหาอย่างแท้จริงยังมาจากความต้องการถดถอย คนรุ่นใหม่หันไปเช่ารถใช้งานแทน “ซื้อ”
รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้งานรถยนต์ของคนไทยที่ค่อนข้างนาน เฉลี่ยถึง 12 ปี เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยประเทศหลัก ๆ ที่ใช้งานรถยนต์ประมาณ 6-8 ปี จึงทำให้โอกาสที่จะซื้อรถยนต์ใหม่เพื่อหมุนเวียนรถเก่าค่อนข้างต่ำ
อีกทั้งเศรษฐกิจไทยที่เติบโตช้าลง “หนี้ครัวเรือน” ทรงตัวระดับสูง ยิ่งทำให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อยากขึ้น เพิ่มความเป็นไปได้ของคาดการณ์ที่ว่ายอดขายรถยนต์ภายในประเทศของไทยทั้งปี 2567 จะหดตัวรุนแรงต่ำสุดในรอบ 15 ปี
เจาะข้อมูลความอ่อนแอของตลาดซื้อ-ขายรถยนต์ไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี (ม.ค.-ก.ค.) พบว่าทั้งยอดการผลิต ยอดขายในประเทศ และการส่งออกหดตัว ทำให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยต้องปรับเป้าการผลิตจาก 1.9 ล้านคัน เหลือ 1.7 ล้านคัน ตามแนวโน้มการขายในประเทศที่ลดลงอย่างมาก
ส่วนยอดขายรวม (ม.ค.-ก.ค.) อยู่ที่ 354,000 คัน ลดลงถึง 23.7% จาก 465,000 คัน ภายใต้ตลาดรถ EV หรือรถยนต์ไฟฟ้าเร่งตัวขึ้น สะท้อนจากส่วนแบ่งทางการตลาดของ TOP 10 แบรนด์ยอดนิยม ที่พบว่าแม้ Toyota และ Honda ยังคงรักษายอดขายได้เพิ่มขึ้น แต่แบรนด์หลักต่าง ๆ สัดส่วนยอดขายลดลงทั้งหมดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยกเว้นหมวดอื่น ๆ ที่เติบโตจาก 12.8% เป็น 16.6% ส่งสัญญาณแบรนด์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะรถ EV ที่เข้ามาในตลาดได้รับความนิยมมากขึ้นจากคนไทย
เปิดTOP 10 แบรนด์รถยอดนิยม ปี 67 (% ส่วนแบ่งตลาด)
- Toyota 37.6% (เพิ่มขึ้นจาก 33.7%)
- Isuzu 15% (ลดลงจาก 21.1%)
- Honda 13.8% (เพิ่มขึ้นจาก 11.6%)
- Mitsubishi 4.6% (ลดลงจาก 4.8%)
- Ford 3.7% (ลดลงจาก 4.9%)
- MG 2.8% (ลดลงจาก 3.2%)
- Nissan 1.7% (ลดลงจาก 2.2%)
- Mazda 1.6% (ลดลงจาก 2.4%)
- GWM 1.3% (ลดลงจาก 1.5%)
- Suzuki 1.2% (ลดลงจาก 1.7%)
- อื่น ๆ 16.6% (เพิ่มขึ้นจาก 12.8%)

ทั้งนี้ วิจัยธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทยว่า เศรษฐกิจไทยและโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน รวมไปถึงประเด็นความขัดแย้งและสงครามการค้า อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมไปถึงประเด็นหนี้ครัวเรือน ค่าครองชีพ และอัตราดอกเบี้ย ทำให้กำลังซื้อในตลาดรถยนต์ไม่ฟื้นตัว และหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้สถาบันการเงินระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ส่วนปัจจัยบวกอย่างการผลิตเพื่อขายภายในประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตามการเข้ามาตั้งฐานการผลิตของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ อาจช่วยพยุงภาพรวมได้.