โอ้โห “อ.อ๊อดตี่ลี่ฮวงจุ้ย” รู้แล้วเอาเงินที่หลอกคนไปทำอะไร ตำรวจเผยเองแหล่งที่มา:
วัยนี้ (11 พ.ย.67) เวลา 11.00 น. ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.แถลงผลการจับกุมนายธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ หรือ “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงและฟอกเงิน หลังมีกลุ่มผู้เสียหายกว่า 67 ราย เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดกรณีถูกหลอกให้ซื้อวัตถุมงคล รวมความเสียหายกว่า 108 ล้านบาท
โอ้โห “อ.อ๊อดตี่ลี่ฮวงจุ้ย” รู้แล้วเอาเงินที่หลอกคนไปทำอะไร ตำรวจเผยเอง
พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้มีผู้เสียหายรายหนึ่งได้มาแจ้งความกับบช.ก. จากนั้นก็มีผู้เสียหายรายอื่นๆเข้ามาแจ้งความอย่างต่อเนื่อง รวมการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งสิ้น 67 คน มูลค่าความเสียหาย 108 ล้านบาท สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหา มีการเปิดบริษัทรับดูดวงฮวงจุ้ย และมีการนำเสนอให้ทำพิธีต่างๆ รวมไปถึงให้ซื้อวัตถุมงคลต่างๆอาทิ กิเลน หรือสิงห์คู่หลายครั้ง แต่ผู้เสียหายไม่ได้ของตามที่สั่ง ผู้เสียหายบางรายสั่งตั้งแต่ปี 63 จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับของ ซึ่งผู้ต้องหามีพฤติกรรมแบบนี้มาอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ทางตำรวจสอบสวนกลางขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตามปรากฏว่าทางตัวผู้ต้องหาไม่ได้อยู่บริเวณบ้าน และได้รับข้อมูลว่ามีคนพาตัวผู้ต้องหาไปบริเวณชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตรงนี้จะต้องสืบสวนสอบสวนและหาพยานหลักฐาน หากพบว่ามีการพยายามหลบหนีก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตามตัวผู้ต้องหาและมอนิเตอร์อยู่ตลอดเวลา และเตรียมล็อกพื้นที่ตามชายแดนป้องกันการหลบหนีไว้ กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 04.30 น. ของวันนี้ พบว่าตัวผู้ต้องหาได้กลับมาอยู่บริเวณบ้านพักย่านปทุมธานี จึงได้เข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทันที เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ซึ่งขณะนี้ก็มีการนำตัวผู้ต้องหามาที่บก.ป.เป็นที่เรียบร้อย และกำลังทำการสอบปากคำอยู่ คาดว่าจะมีข้อหามากกว่านี้ อย่างไรก็ตามจะต้องสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
โอ้โห “อ.อ๊อดตี่ลี่ฮวงจุ้ย” รู้แล้วเอาเงินที่หลอกคนไปทำอะไร ตำรวจเผยเอง
ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตรวจยึดทรัพย์สินแต่อย่างใด จะเป็นการดำเนินการขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้พบว่าเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดนั้น ผู้ต้องหาได้นำไปใช้แล้ว เบื้องต้นทราบว่าเป็นการนำไปเล่นการพนัน และสำหรับรถหรู 2 คันที่อายัดมาเมื่อสองวันก่อน เป็นรถของผู้ต้องหาหรือไม่ นั้นราบว่าเป็นรถหรูยี่ห้อลัมโบร์กีนี แต่เป็นรถที่ผู้ต้องหาทำการเช่ามาใช้ เดือนละ 1 ล้านบาท คาดว่าเป็นการเช่ามาเพื่อสร้างโปรไฟล์
แหล่งที่มา: https://www.tnews.co.th/social/social-news/617385?fbclid=IwY2xjawGeox1leHRuA2FlbQIxMAABHcswcaMZeq8cyaZpwaz4p5qn-SGJLUt36tUPWzwKi9UAqAnRxhEmdOQW8g_aem_nyCcFsK2hylmL87S5A4z6A
TOP 10 อสังหาฯ ไทย ทำกำไรสูงสุด แสนสิริ โกยมากสุด ขณะ 14 บริษัท ขาดทุน สต๊อกรวมท่วม 6.3 แสนล้าน
- อันดับ 1 : แสนสิริ 3,110 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 2 : เอพี 3,022 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 3 : ศุภาลัย 2,824 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 4 : แลนด์แอนด์เฮ้าส์ 2,806 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 5 : ออริจิ้น 1,915 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 6 : พฤกษา 1,730 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 7 : คิวเฮ้าส์ 1,261 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 8 : เอสซี แอสเสท 1,134 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 9 : เฟรเซอร์ส 714 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 10 : แอสเซทไวส์ 531 ล้านบาท (ลดลง)

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องจับตาดู คือ จำนวนสต๊อกที่อยู่อาศัยคงเหลือ และหน่วยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก โดยนับรวมจากทั้ง 38 บริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 อยู่ที่ 638,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.96% จาก 626,535.06 ล้านบาท จากสิ้นไตรมาสแรกที่ผ่านมา สต๊อกมากสุด นำโดย บมจ.แสนสิริ, ศุภาลัย, เอพี, แลนด์แอนด์เฮ้าส์, เอสซีฯ และพฤกษา เป็นต้น