ตร.บางละมุง บุกรวบแร็ปเปอร์หนุ่ม กำลังส่งยาที่ร้านสักแห่งหนึ่ง
เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 8 พ.ย. 2567 พ.ต.ต.สุชาติ ดุสดี สวป. และ ร.ต.ต.ธงธวัช พลละคร รอง.สว.สส. พร้อมชุดสืบสวนฝ่ายงานป้องกันและปราบปราม (ป.พิเศษ) สภ.บางละมุง ได้ทำการจับกุม นายอนุสรณ์ เกตุแจ้ หรือ เบ๊นซ์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นช่างสักและแร็ปเปอร์ผู้มีใจรักในการแต่งเพลง พร้อมของกลางยาเคตามีน น้ำหนักรวม 1 ขีด

ซึ่งการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาเคเพื่อจำหน่ายในสถานบันเทิงในเขตเมืองพัทยา โดยคาดว่า จะมีการส่งยาเคที่ร้านสักแห่งหนึ่งบนถนนหนองไม้แก่น หมู่ 7 ต.หนองปรือ เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนซุ่มดักจับ จนกระทั่งพบชายต้องสงสัยมีลักษณะตรงตามข้อมูลจากสายลับ ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นและพบยาเคบรรจุในถุงพลาสติกใส น้ำหนักรวม 1 ขีด ซุกซ่อนอยู่ในตัวของนายอนุสรณ์ จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บางละมุง

ทางด้าน นายอนุสรณ์ ยอมรับสารภาพว่า ลักลอบขายยาเคมาเกือบ 7 เดือน เนื่องจากรายได้จากอาชีพช่างสักไม่พอใช้และตนเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว โดยซื้อยาเคจากเอเย่นต์ในราคา 13,000 บาทต่อขีดและนำไปขายต่อในราคา 16,000 บาท โดยไม่มีการแบ่งขาย จนกระทั่งถูกผู้ซื้อหักหลังแจ้งให้ตำรวจจับกุมในที่สุด

ระหว่างการสอบสวน นายอนุสรณ์ยังได้เล่าถึงความหลงใหลในการแต่งเพลงและการเป็นแร็ปเปอร์ที่ฝันถึงมาตลอด พร้อมร้องเพลงแร็ปสดต่อหน้าตำรวจและนักข่าว ระบายความในใจถึงชีวิตที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาขอโทษครอบครัวและน้อยใจเพื่อนที่หายหน้าในยามลำบาก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ยาเคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต และส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวจังหวัดชลบุรี รายงาน
แหล่งที่มา: https://www.siamnews.com/view-122112.html?fbclid=IwY2xjawGblLZleHRuA2FlbQIxMAABHfKUmf1F_iO6Q2afGmcsO44AwHrRNrptfpPj2_imuEF_XLdsDtVYSMR4jg_aem_yqCuvpiFKkaPrdX8omo_6A
TOP 10 อสังหาฯ ไทย ทำกำไรสูงสุด แสนสิริ โกยมากสุด ขณะ 14 บริษัท ขาดทุน สต๊อกรวมท่วม 6.3 แสนล้าน
- อันดับ 1 : แสนสิริ 3,110 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 2 : เอพี 3,022 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 3 : ศุภาลัย 2,824 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 4 : แลนด์แอนด์เฮ้าส์ 2,806 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 5 : ออริจิ้น 1,915 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 6 : พฤกษา 1,730 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 7 : คิวเฮ้าส์ 1,261 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 8 : เอสซี แอสเสท 1,134 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น)
- อันดับ 9 : เฟรเซอร์ส 714 ล้านบาท (ลดลง)
- อันดับ 10 : แอสเซทไวส์ 531 ล้านบาท (ลดลง)

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องจับตาดู คือ จำนวนสต๊อกที่อยู่อาศัยคงเหลือ และหน่วยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก โดยนับรวมจากทั้ง 38 บริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 อยู่ที่ 638,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.96% จาก 626,535.06 ล้านบาท จากสิ้นไตรมาสแรกที่ผ่านมา สต๊อกมากสุด นำโดย บมจ.แสนสิริ, ศุภาลัย, เอพี, แลนด์แอนด์เฮ้าส์, เอสซีฯ และพฤกษา เป็นต้น